นิวคาสเซิลเผยผลขาดทุน 11.1 ล้านปอนด์ แม้รายได้เพิ่มขึ้นในฤดูกาล 2023-24
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดเผยผลประกอบการประจำฤดูกาล 2023-24 โดยขาดทุนสุทธิ 11.1 ล้านปอนด์ ซึ่งลดลงอย่างมากจากที่ขาดทุน 71.8 ล้านปอนด์ในฤดูกาลก่อน
สถานะทางการเงินของสโมสรดีขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 28% รวมเป็น 320 ล้านปอนด์ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเข้าร่วมแข่งขันในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และกำไรจากการขายนักเตะที่สูงถึง 70 ล้านปอนด์
นักเตะที่ย้ายออกไปในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ที่ถูกขายให้กับ อัล-อาห์ลี ในซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 รวมถึง เอลเลียต แอนเดอร์สัน และ ยันคูบา มินเตะ ที่ถูกปล่อยตัวก่อนเส้นตายของปีงบประมาณในวันที่ 30 มิถุนายน 2024
การขายนักเตะช่วยลดผลกระทบจากการใช้จ่ายเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ 2023 ซึ่งรวมถึงการเซ็นสัญญากับ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (38 ล้านปอนด์จากเลสเตอร์ ซิตี้), ซานโดร โตนาลี (55 ล้านปอนด์จากเอซี มิลาน), ติโน่ ลิฟราเมนโต (32 ล้านปอนด์จากเซาแธมป์ตัน) และ ลูอิส ฮอลล์ (28 ล้านปอนด์จากเชลซี)
สโมสรยืนยันว่าการปรับปรุงด้านการเงินทำให้สามารถปฏิบัติตามกฎความยั่งยืนทางการเงินของพรีเมียร์ลีก (PSR) ได้
“เรามุ่งมั่นสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และเราเริ่มต้นปี 2025 ด้วยสถานะที่แข็งแกร่ง” ดาร์เรน อีลส์ ประธานบริหารของสโมสรกล่าว “ความก้าวหน้าของเรามาจากการทำงานอย่างรอบคอบทั้งในและนอกสนาม การกลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและสร้างผลประโยชน์ทางการเงินที่ชัดเจน”
อีลส์เคยเตือนว่า สโมสรอาจต้องขายนักเตะเมื่อประกาศตัวเลขการเงินของฤดูกาล 2022-23 หลังจากที่ก่อนหน้านั้น สโมสรขาดทุน 70.7 ล้านปอนด์ในฤดูกาล 2021-22 ซึ่งเป็นปีที่ถูกเทคโอเวอร์โดยกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (PIF)
ตามกฎ PSR สโมสรในพรีเมียร์ลีกสามารถขาดทุนได้ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ในช่วงระยะเวลา 3 ปี โดยการใช้จ่ายในศูนย์ฝึกเยาวชน โครงสร้างพื้นฐาน และโครงการเพื่อสังคมจะไม่ถูกนำมาคำนวณในขีดจำกัดนี้
ในสนามแข่งขัน นิวคาสเซิลจบฤดูกาล 2023-24 ด้วยอันดับ 7 ของพรีเมียร์ลีก พลาดโอกาสคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปอย่างฉิวเฉียด ขณะที่ในฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ พวกเขาเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศทั้งสองรายการ และตกรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
ที่มา https://www.bbc.com
