เอซี มิลาน เผชิญหน้ากับการตัดสินใจเลือกระหว่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ ไคล์ วอล์คเกอร์ หลังจากกฎ Brexit ส่งผลให้ไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะนอกสหภาพยุโรปได้ทั้งสองคน
ข้อจำกัดเกี่ยวกับการเซ็นสัญญานักเตะนอกสหภาพยุโรปทำให้ เอซี มิลาน ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ต้องการย้ายทีม
เอซี มิลาน แสดงความสนใจอย่างจริงจังในตัวนักเตะพรีเมียร์ลีกทั้งสองคน แต่สามารถเซ็นสัญญาได้เพียงคนเดียวตามกฎของเซเรีย อา ที่อนุญาตให้แต่ละสโมสรลงทะเบียนนักเตะนอกสหภาพยุโรปได้เพียง 2 คนต่อฤดูกาล
ปัจจุบัน โควตานักเตะนอกสหภาพยุโรปของมิลานถูกใช้ไปกับ สตราฮินยา ปาฟโลวิช กองหลังทีมชาติเซอร์เบีย และ เอเมอร์สัน รอยัล จากบราซิล อย่างไรก็ตาม สโมสรสามารถเซ็นสัญญากับนักเตะเพิ่มเติมได้อีก 1 คน หากเป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษหรือแอลเบเนีย
มิลานมีนักเตะอังกฤษอยู่ในทีมหลายคนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฟิกาโย โทโมรี, รูเบน ลอฟตัส-ชีค และแทมมี อับราฮัม ซึ่งการเสริมทัพด้วย แรชฟอร์ด หรือ วอล์คเกอร์ จะเข้ากับโครงสร้างทีมได้เป็นอย่างดี
มิลานได้เจรจากับพี่น้องของแรชฟอร์ด ซึ่งเป็นตัวแทนเพียงรายเดียวของเขา เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทำข้อตกลง โดยคาดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจเรียกค่าธรรมเนียมในการยืมตัวและขอให้มิลานช่วยแบ่งเบาภาระค่าเหนื่อยของนักเตะวัย 27 ปี ซึ่งมีรายได้ราว 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม นักเตะยูไนเต็ดจะถูกลดค่าเหนื่อยหากทีมไม่ได้เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งฤดูกาลนี้เป็นเช่นนั้น ทำให้คาดว่าแรชฟอร์ดได้รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ประมาณ 240,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ในขณะเดียวกัน มิลานก็แสดงความสนใจในตัวไคล์ วอล์คเกอร์เช่นกัน โดยวอล์คเกอร์ได้ขอแยกทางกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ได้มีชื่อในทีมตลอดสองเกมหลังสุด
มิลานกำลังพิจารณาว่าจะเสริมทัพในตำแหน่งใดเป็นลำดับแรก โดยพวกเขามีปัญหาในการทำประตูในเกมเหย้ากับกายารี่ ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 โดยอัลบาโร่ โมราต้าทำประตูให้ทีมได้ หลังจากนั้นพวกเขาเอาชนะโคโม่ได้จากประตูชัยของราฟาเอล เลเอา ซึ่งเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายที่แรชฟอร์ดถนัด
ในตำแหน่งแบ็กขวา ฟอร์มของเอเมอร์สันยังไม่คงเส้นคงวาตั้งแต่ย้ายมาจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ขณะที่ดาวิเด้ คาลาเบรีย กัปตันทีมมิลาน ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 6 นัดในฤดูกาลนี้
มีรายงานจาก Telegraph Sport ว่าคู่แข่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพร้อมเดินหน้าคว้าตัว โคบี เมนู, อเลฮานโดร การ์นาโช่ หรือ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้ เนื่องจากคาดว่า เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ต้องการหลีกเลี่ยงการขายนักเตะอย่างเร่งรีบก่อนวันที่ 30 มิถุนายน เพื่อปฏิบัติตามกฎการเงิน
แม้ว่าทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกจะไม่ถูกลงโทษตามกฎกำไรและความยั่งยืน (PSR) สำหรับฤดูกาล 2023-24 แต่ปัญหาทางการเงินของยูไนเต็ดทำให้พวกเขามีข้อจำกัดในการขยับตัวในตลาดซื้อขาย หากไม่ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้า
การขายนักเตะเยาวชนที่เติบโตมากับสโมสรจะช่วยปรับปรุงสถานะ PSR ได้อย่างมาก เนื่องจากถือเป็นกำไรเต็มจำนวน ต่างจากนักเตะที่ซื้อมาร่วมทีม ซึ่งแรชฟอร์ด, เมนู และการ์นาโช่ ล้วนเป็นทรัพย์สินสำคัญในทีมของรูเบน อาโมริม
