แมนฯ ยูไนเต็ด ปิดดีลคว้า “ดีเอโก้ เลออน”

แชร์เรื่องนี้

การเซ็นสัญญา ดีเอโก้ เลออน ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีความสำคัญมากกว่าที่คิด

แบ็กซ้ายวัยรุ่นรายนี้ผ่านการตรวจร่างกายกับสโมสรเรียบร้อยแล้ว ก่อนย้ายร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ด้วยค่าตัวประมาณ 7 ล้านปอนด์

ในเดือนสิงหาคม 2023 มีความผิดหวังเกิดขึ้นในหมู่แมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเชลซีคว้าตัว มอยเซส ไกเซโด้ จากไบรท์ตันด้วยค่าตัวเป็นสถิติอังกฤษที่ 115 ล้านปอนด์ ทั้งที่สองปีก่อนหน้านั้น ยูไนเต็ดเคยเล็งไกเซโด้ไว้ตั้งแต่อายุ 19 ปีว่าเป็นนักเตะที่มีศักยภาพสูง แต่สุดท้ายกลับปล่อยให้ไบรท์ตันดึงตัวไปก่อน

เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เคยเล่าว่ายูไนเต็ดพลาดโอกาสคว้าตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ สองครั้งตั้งแต่เขาอายุ 17 ปี รวมถึง เปโดร เนโต้ ที่ยูไนเต็ดสามารถเซ็นสัญญาได้ตั้งแต่ปี 2017 และยังมีกรณีของ เบนจามิน เซสโก้, จามาล มูเซียล่า และ สเตฟาน บายเซติช

ปัญหาของยูไนเต็ดไม่ใช่การค้นพบ แต่คือความล่าช้าในการตัดสินใจ

แมนฯ ยูไนเต็ดมักระบุตัวนักเตะดาวรุ่งได้อย่างแม่นยำ แต่กลับขาดความเด็ดขาดในการเดินหน้าคว้าตัวตามคำแนะนำของทีมแมวมอง อย่างไรก็ตาม สโมสรเริ่มปรับปรุงและการเซ็นสัญญากับ ดีเอโก้ เลออน คือหลักฐานสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้

เลออน วัย 17 ปี แบ็กซ้ายดาวรุ่งชาวปารากวัยจากสโมสร เซร์โร่ ปอร์เตโญ่ เดินทางถึงแมนเชสเตอร์และผ่านการตรวจร่างกายเรียบร้อย เตรียมเซ็นสัญญาล่วงหน้าก่อนย้ายทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม เมื่ออายุครบ 18 ปี ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 3.3 ล้านปอนด์ พร้อมโบนัสเพิ่มเติม 820,000 ปอนด์ และอาจเพิ่มเป็น 2.87 ล้านปอนด์ตามผลงาน โดยจะเซ็นสัญญา 5 ปี พร้อมออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี

ก่อนหน้านี้ ยูไนเต็ดเพิ่งเซ็นสัญญากับ เซกู โกเน่ มิดฟิลด์ตัวรับดาวรุ่งชาวมาลีจาก Guidars FC และ ชิโด้ โอบี-มาร์ติน กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก U18 จากอาร์เซนอล รวมถึงการดึง เลนี่ โยโร่ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส U21 จากลีลล์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางใหม่ของสโมสรในการเน้นคว้านักเตะอายุน้อยภายใต้การบริหารของ Ineos

ยูไนเต็ดเอาชนะอาร์เซนอลในการคว้าตัวเลออน

แมนฯ ยูไนเต็ดเคยประสบความสำเร็จในการดึงตัว อเลฮานโดร การ์นาโช่ จากแอตเลติโก มาดริด และ อาหมัด ดิยัลโล่ จากอตาลันต้า แต่สโมสรมองว่าต้องมีความเด็ดขาดมากขึ้นในการแข่งขันแย่งชิงดาวรุ่ง

Ineos เชื่อว่าการพัฒนาด้านการคว้านักเตะเยาวชนเป็นจุดที่ยูไนเต็ดสามารถทำได้ดีกว่า โดย โอมาร์ เบอร์ราด้า และ เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้บริหารของยูไนเต็ดมีประสบการณ์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วน คริสโตเฟอร์ วีเวล ผู้อำนวยการฝ่ายสรรหาชั่วคราว เคยทำงานกับกลุ่ม Red Bull และเชลซี

หลัง Brexit สโมสรในพรีเมียร์ลีกสามารถเซ็นนักเตะต่างชาติที่อายุเกิน 18 ปีเท่านั้น ทำให้การค้นหานักเตะเยาวชนต้องเปลี่ยนแปลง โดยกรณีของเลออนคือผลจากแนวทางที่ระมัดระวังและรวดเร็วมากขึ้น แม้อาร์เซนอลเคยเจรจากับเซร์โร่ ปอร์เตโญ่ แต่ยูไนเต็ดคว้าตัวมาร่วมทีมได้สำเร็จ

แม้ยูไนเต็ดจะเคยพลาดโอกาสกับนักเตะหลายราย แต่ตอนนี้สโมสรกำลังมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในการคว้าดาวรุ่งให้มากขึ้นในอนาคต