เสียงเชียร์ ‘you’ll never beat Kyle Walker’ “คุณจะไม่มีวันเอาชนะ ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้” กลายเป็นเพียงอดีต เมื่อแบ็คขวาคู่ใจของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจะอำลาทีม กลายเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ผิดพลาดภายในทีมในฤดูกาลนี้
ย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อน เป๊ป กวาร์ดิโอลา เคยกล่าวติดตลกว่า “ไคล์ วอล์คเกอร์ จะยังคงเร็วเสมอ แม้ในวัย 60 ปี” ความเร็วของวอล์คเกอร์ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ช่วยทีมป้องกันเกมสวนกลับอย่างมีประสิทธิภาพ แต่เวลาผ่านไป ความเร็วที่เคยเป็นจุดแข็งกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้คู่แข่งอย่าง อดาม่า ตราโอเร่ และ ติโม แวร์เนอร์ สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย
ความมั่นใจของวอล์คเกอร์ดูเหมือนจะลดลง พร้อมกับการเล่นเกมรับที่บกพร่องมากขึ้น เขาถูก มอร์แกน โรเจอร์ส เอาชนะจนเสียประตูในเกมแพ้แอสตัน วิลล่า 2-1 และพลาดจนเสียสองประตูให้คริสตัล พาเลซในเกมเสมอ 2-2 ซิตี้ยังไม่ชนะเกมใดที่วอล์คเกอร์ลงเป็นตัวจริงตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
วอล์คเกอร์ที่เริ่มฤดูกาลด้วยความหวังว่าจะคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกหรือแชมเปียนส์ลีก จบลงด้วยการกลายเป็นตัวแทนของการถดถอยของทีม และตอนนี้เขากำลังมองหาความเป็นไปได้ในการย้ายไปเล่นต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ในปี 2023 ไคล์ วอล์คเกอร์ เกือบย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค โดยเขาเคยบอกลาเพื่อนร่วมทีมแล้ว แต่ถูกกวาร์ดิโอลาชักชวนให้อยู่ต่อพร้อมสัญญาใหม่ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ผลงานในฤดูกาลนี้กลับไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ไคล์ วอล์คเกอร์ เคยถูกดร็อปในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกกับอินเตอร์ มิลาน แม้เขาจะเป็นผู้นำทีมและมอบแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทีมเสมอ แต่การเปลี่ยนบทบาทของ จอห์น สโตนส์ ทำให้เขาหลุดจากแผนการเล่น
การถดถอยของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ส่งผลกระทบอย่างมาก เพราะเป๊ปเคยใช้ความเร็วของเขาเปลี่ยนจากฟูลแบ็คเกมรุกมาเป็นฟูลแบ็คเกมรับ เพื่อหยุดเกมสวนกลับซึ่งเป็นจุดอ่อนของซิตี้ แต่เมื่อวอล์คเกอร์เริ่มช้าลง ทีมก็ขาดตัวช่วยสำคัญในการป้องกัน
ปัจจุบัน ไคล์ วอล์คเกอร์ วัย 34 ปี อาจไม่สามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้เหมือนเดิม และความเร็วของเขาที่หายไปเร็วกว่าที่กวาร์ดิโอลาคาดการณ์ไว้ถึง 26 ปี ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้