แรชฟอร์ด ยังไม่ใช่สตาร์ของเอเมรี แต่โอกาสยังเปิดกว้าง

แรชฟอร์ด ยังไม่ใช่สตาร์ของเอเมรี (ตอนนี้)

มาร์คัส แรชฟอร์ด แข้งตัวยืมจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามเป็นครั้งแรกกับ แอสตัน วิลลา ในเกมเอฟเอ คัพ พบกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

แรชฟอร์ด เดินทางมาถึงเบอร์มิงแฮมแล้ว ตั้งแต่ก่อนเกม เจ้าตัวก็เผยรอยยิ้มที่เราแทบไม่เคยเห็นมานาน เป็นรอยยิ้มของคนที่รู้สึกปลดปล่อย หลังจากต้องทนทุกข์กับสภาพแวดล้อมที่บ้านเกิดของเขาเอง อดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างเจดอน ซานโช ก็สะท้อนเรื่องนี้ผ่านโพสต์ในอินสตาแกรมของเขาด้วยข้อความสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า “อิสรภาพ” ไม่มีอะไรจะสื่อถึงสถานการณ์ของแรชฟอร์ดในแมนเชสเตอร์ได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว

หัวหอกหมายเลข 9 ของแอสตัน วิลลา ได้สัมผัสเกมเป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของอูไน เอเมรี โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 66 ร่วมกับมาร์โก อเซนซิโอ ซึ่งก็เพิ่งประเดิมสนามให้กับทีมเช่นกัน หากย้อนเวลากลับไปไม่กี่ปีแล้วบอกแฟนบอลว่า อเซนซิโอและแรชฟอร์ดจะลงเล่นให้แอสตัน วิลลาในเกมเดียวกัน คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ แต่นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว

แม้ทั้งคู่จะยังมีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมไม่มาก แต่แรชฟอร์ดก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของตัวเองจากตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย โดยเฉพาะการกระชากบอลจากด้านนอกเข้าใน รวมถึงจังหวะลอดขาใส่เปโดร ปอร์โร ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้ไม่น้อย ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและสร้างความหวังให้กับแฟนๆ ว่าเขาจะสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้

คำถามคือ เกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ที่พบกับอิปสวิช ทาวน์ หนึ่งในสองแข้งใหม่ของวิลลาจะได้รับโอกาสเป็นตัวจริงหรือไม่?

สัญญาณเตือนถึง แรชฟอร์ด

มาร์คัส แรชฟอร์ด รู้ดีว่าเส้นทางของเขาที่แอสตัน วิลลา ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากต้องการยึดตำแหน่งตัวจริง เขาต้องพิสูจน์ตัวเองและไม่มีสิทธิ์ผ่อนคลายแม้แต่วินาทีเดียว เพราะคู่แข่งของเขาในตำแหน่งริมเส้นอย่างจาค็อบ แรมซีย์ (กองกลางตัวรุกที่เล่นเกมรุกได้อย่างอิสระ) และลีออน เบลีย์ (ปีกตัวจี๊ดที่เล่นเกมโต้กลับได้อย่างอันตราย) ต่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีของเอเมรี

แต่ที่แน่ๆ ตำแหน่งของมอร์แกน โรเจอร์ส คงไม่มีทางถูกแย่งไปได้ง่ายๆ เพราะดาวรุ่งวัย 22 ปีรายนี้กำลังเป็นสตาร์หมายเลขหนึ่งของทีม

อดีตแข้งเยาวชนของเวสต์บรอมฯ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รายนี้โชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งในเกมล่าสุด ด้วยการทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ส่งผลให้ยอดรวมของเขาในซีซั่นนี้เพิ่มขึ้นเป็น 11 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ ซึ่งเทียบเท่ากับโอลลี่ วัตกินส์ หัวหอกตัวหลักของทีมในแง่ของจำนวนประตู

ถึงแม้ชื่อของแรชฟอร์ดจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ ณ เวลานี้ มอร์แกน โรเจอร์ส คือผู้เล่นที่มีอิทธิพลต่อทีมมากกว่าอย่างชัดเจน!

ที่มา https://www.sport.es/