เอซี มิลาน ตกรอบแชมเปียนส์ลีกหลังเสมอเฟเยนูร์ด 1-1

เอซี มิลาน ตกรอบแชมเปียนส์ลีกหลังจากเสมอกับเฟเยนูร์ด 1-1 ในเลกที่สองของรอบน็อกเอาต์ที่สนามซานซิโร

ในเลกแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เอซี มิลาน ตามหลัง 1-0 แต่สามารถทำประตูคืนได้ทันทีในเวลาเพียง 36 วินาที จากการยิงของซานติอาโก กีเมเนซ ที่ทำประตูให้กับเฟเยนูร์ด ทีมเก่าของเขา พร้อมกับเป็นประตูที่เร็วที่สุดในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้

แต่ในนาทีที่ 51 เทโอ แอร์นานเดซ ฟูลแบ็คของมิลานถูกใบเหลืองที่สองและถูกไล่ออกไป ก่อนที่จูเลียน คาร์รันซ่า ตัวสำรองของเฟเยนูร์ดจะโหม่งทำประตูชัยในนาทีที่ 73 ส่งผลให้เฟเยนูร์ดผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 2-1

การจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้จะตัดสินว่าเฟเยนูร์ดจะเจอกับอินเตอร์ มิลาน หรืออาร์เซนอลในเดือนหน้า

เซร์จิโอ คอนเซเซา โค้ชของ เอซี มิลาน กล่าวว่า “มันเป็นความพ่ายแพ้ที่ใหญ่สำหรับผมและผมทำผิดพลาดหลายอย่าง”

“ผมรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้นี้ เราควรจะทำได้ดีกว่านี้ในด้านจิตใจ การตกรอบครั้งนี้เป็นความผิดของผม ไม่ใช่ของเทโอหรือใครก็ตาม ผมคือคนที่ต้องรับผิดชอบ – เทโอได้ให้ทุกอย่างกับมิลาน”

มิลานที่เคยเป็นแชมป์ยุโรป 7 สมัยมีการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบด้วยประตูของกีเมเนซ

คริสเตียน พูลิซิชเปิดบอลไปที่เสาสุดท้ายและมาลิก เธียวโหม่งคืนเข้ามาในพื้นที่อันตรายให้กีเมเนซโหม่งจากระยะใกล้เข้าสู่ประตูเป็นประตูที่หกของเขาในรายการนี้ – 5 ประตูที่มากับเฟเยนูร์ดก่อนที่เขาจะย้ายออกไปในช่วงตลาดซื้อขายฤดูหนาว

ทีมของคอนเซเซาไล่ล่าประตูที่สองเพื่อแซงสกอร์รวม โดยทิจญานี เรย์เดอร์ส และโจอาโอ เฟลิกซ์ ได้ยิงใกล้เคียง ก่อนที่ลูกยิงของแอร์นานเดซจะชนเสากลางในนาทีที่ 23

ราฟาเอล เลาโอ ถูกทิมอน เวลเลนเราเทอร์ เซฟไว้ได้ในช่วงท้ายครึ่งแรกและผู้รักษาประตูของเฟเยนูร์ดก็ต้องออกแรงเซฟอีกครั้งในครึ่งหลังจากการยิงของไคล์ วอล์คเกอร์

หลังจากการเริ่มต้นครึ่งหลัง 6 นาที เฟเยนูร์ดได้ประโยชน์จากการที่แอร์นานเดซโดนใบเหลืองที่สองจากการพุ่งล้ม

เฟเยนูร์ดใช้ประโยชน์จากการได้เปรียบทางจำนวนผู้เล่นเมื่อคาร์รันซ่าพุ่งเข้าหาบอลจากการเปิดของฮูโก้ บุเอโน่ โหม่งบอลผ่านไมค์ ไมญอง ผู้รักษาประตูของมิลาน ส่งเฟเยนูร์ดผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1974

อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่มีเกวาโร่ รีด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเนื่องจากเขาโดนใบแดงจากพฤติกรรมรุนแรงหลังจากที่ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองทีมเพิ่มขึ้นหลังจบเกม

การดิ้นรนของ เอซี มิลาน ยังคงต่อเนื่อง

มิลานที่เคยเป็นมหาอำนาจในวงการฟุตบอลยุโรปได้เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปียนส์ลีกเพียงครั้งเดียวตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14

ครั้งเดียวที่มิลานทำได้คือในฤดูกาล 2022-23 โดยพวกเขาถึงรอบรองชนะเลิศภายใต้การคุมทีมของสเตฟาโน่ ปิออลี่ และยังช่วยพาพวกเขาคว้าแชมป์เซเรีย อา ครั้งแรกในรอบ 11 ปีเมื่อปี 2022

อย่างไรก็ตาม มิลานล้มเหลวในการกลับไปสู่จุดสูงสุดหลังจากที่ปิออลี่ออกจากทีมในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา โดยคอนเซเซา โค้ชคนปัจจุบันของพวกเขาคือผู้จัดการทีมคนที่สองของฤดูกาลนี้ หลังจากที่พวกเขาปลดเปาโล ฟอนเซก้าในเดือนธันวาคม

คอนเซเซาเข้ามาคุมทีมในขณะที่มิลานอยู่อันดับที่ 8 ในตารางเซเรีย อา และถึงแม้ว่าผลการแข่งขันจะดีขึ้นในช่วงหลัง แต่พวกเขาก็ยังเสี่ยงที่จะไม่ได้ไปเล่นในยุโรปในฤดูกาลหน้า

มิลานขณะนี้ตามหลังฟิออเรนตินา ทีมที่อยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟของคอนเฟอเรนซ์ลีกเพียงแค่คะแนนเดียว และตามหลังยูเวนตุสทีมที่อยู่ในอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า 5 คะแนน

แม้ว่าเขาจะพามิลานคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพของอิตาลีหลังจากเอาชนะอินเตอร์ มิลานไม่นานหลังจากเข้ามาคุมทีม แต่ว่าการตกรอบแชมเปียนส์ลีกอย่างรวดเร็วในครั้งนี้จะเพิ่มความกดดันให้กับคอนเซเซาอีกมาก

ที่มา https://www.bbc.com/